วันพุธที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2559

การมาวัดครั้งแรกของข้าพเจ้า ประมาณปี 2524 ด้วยการตามเพื่อนจากชมรมพุทธ ในมหาวืทยาลัยเกษตรศาสตร์มา โดยที่ยังไม่มีความเข้าใจเรื่องวัด เรื่องธรรมะอะไรมากนัก ตอนนั้นถนนจากบางขันธ์ถึงวัดยังเป็นลูกรัง ไม่มีรถยนต์วิ่ง จึงต้องเดินจากบางขันธ์ไปวัดประมาณ 4-5 กม.เหนื่อยพอสมควร.... แปลกใจว่าทำไมต้องมาวัดที่แสนไกล และลำบากขนาดนี้ แต่ที่น่าทึ่งมาก ตอนนั้นมีคนมาร่วมงานบุญถึงประมาณ 500-600 คน ทั้งที่การเดินทางแสนลำบากทำให้ข้าพเจ้าอดคิดไม่ได้ว่าวัดต้องมีอะไรดีๆกระมัง

เมื่อถึงวัด ความประทับใจแรกคือความสะอาดของวัด ทั้งสถานที่ จานชาม ห้องน้ำ สบายตา สบายใจไปหมด จนคาดไม่ถึง ว่าเขาทำได้อย่างไร เพราะปกติจะเจอวัดทั่วไปซึ่งเป็นที่รวมของคนเยอะจึงไม่ค่อยสะอาด ทำให้ไม่อยากเข้าวัดเลย

คนที่มาวัดก็หน้าตามีความสุขดีจัง เรียบๆง่ายๆ เวลานั่งสมาธิก็เงียบมาก จนเราไม่กบ้าทำเสียงดังไปด้วย

พอชักเริ่มประทับใจก็มาอีกบ่อยขึ้น ก็แปลกใจอีก ทำไมเวลาหลวงพ่อท่านเทศน์ ไม่เห็นท่านเทศน์ยกยอตนเองเลย ได้แต่บูชา ยกย่องครูบารอาจารย์ของท่านตลอด  ท่านช่างเป็นผู้ที่มีความกตัญญูดีเหลือ ...ประทับใจอีกแล้ว

เมื่อเรียนจบ ไปทำงานต่างจังหวัด ไปเจอชีวิตทางโลกแล้วรู้เลยว่า มันเป็นเพียงความเพลินชั่วครู่ชั่วคราวเท่านั้น มีความสุขอยู่ไม่นานเดี๋ยวก็ทุกข์อีกแล้ว

เพิ่งเข้าใจว่าทำไมพระ ท่านจึงสละชีวิตทางโลก มาบวชอุทิศชีวิตกันมากมายที่วัดนี้ รวมทั้งอุบาสก อุบาสิกาเป็นพันๆคนที่จบปริญญาทางโลก ในสาขาที่สามารถหางานดีๆทำได้อย่างง่ายดาย ก็มาอุทิศตัวช่วยงานพระศาสนากันอย่างเอาชีวิตเป็นเดิมพัน.
...(ช่างทำบุญเก่ากันมาดีจริงๆ....อนุโมทนาบุญด้วยค่ะ)

ท่านที่ยังมีชีวิตวนเวียนอยู่แต่ทางโลก แล้วเริ่มรู้สึกว่า.... มันไม่มีอะไร ....ขอเชิญลองเข้าไปศึกษาดูด้วยตัวเองนะคะ